เปิดโลกโอมากาเสะ: ทำความรู้จัก 8 วัตถุดิบหายาก ที่คุณอาจไม่เคยลิ้มลอง!
เป็นที่ทราบกันดีว่า หนึ่งในหัวใจสำคัญของประสบการณ์โอมาก… Continue reading เปิดโลกโอมากาเสะ: ทำความรู้จัก 8 วัตถุดิบหายาก ที่คุณอาจไม่เคยลิ้มลอง!
Ingredients ● 2025 ต.ค. 11

เป็นที่ทราบกันดีว่า หนึ่งในหัวใจสำคัญของประสบการณ์โอมากาเสะคือ ‘วัตถุดิบ’ ระดับพรีเมียมที่ดีที่สุดในแต่ละฤดูกาล (Shun) นำมาปรุงเป็นเมนูที่มีเอกลักษณ์ด้วยเทคนิคเฉพาะตัวของเชฟ ท่ามกลางวัตถุดิบสดใหม่ระดับพรีเมียมยังมีวัตถุดิบหายากที่เปรียบเสมือน ‘สมบัติล้ำค่า’ ที่นักชิมทั่วโลกใฝ่ฝันอยากลิ้มลอง ตั้งแต่ปลาทะเลที่อร่อยที่สุดในช่วงฤดูหนาว หรือกุ้งที่จับได้เฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่สำคัญวัตถุดิบเหล่านั้นต้องอาศัยทักษะและความเชี่ยวชาญในการดึงรสชาติที่ดีที่สุดออกมา Yuzu Omakase ชวนคุณทำความรู้จัก 8 วัตถุดิบหายากในเมนูโอมากาเสะ ที่ต้องลิ้มลองสักครั้งในชีวิต
1. อานาโกะ (Anago): ปลาไหลทะเลแห่งความนุ่มละมุน

หลายคนอาจคุ้นเคยกับ ‘อูนางิ’ หรือ ‘ปลาไหลน้ำจืด’ กันใช่ไหมครับ แต่ในโลกของโอมากาเสะ ‘อานาโกะ’ หรือ ‘ปลาไหลทะเล’ ถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบชั้นเลิศจากฮิโรชิม่า โดยเฉพาะเกาะมิยาจิมะ (Miyajima) ซึ่งมีเมนูเลื่องชื่อประจำท้องถิ่นอย่าง ‘Anago Meshi’ (ข้าวหน้าปลาอานาโกะ) อานาโกะโดดเด่นด้วยเนื้อสัมผัสนุ่มฟู มีไขมันน้อยกว่า และรสชาติหวานละมุนยิ่งกว่า อูนางิ เหมาะสำหรับการทำซูชิหรือย่างให้หอมแล้วทาด้วยซอส ‘สึเมะ’ ซอสรสชาติหวาน ๆ เค็ม ๆ สูตรพิเศษของเชฟ ที่เกิดจากการเคี่ยวกระดูกปลาอานาโกะอย่างเข้มข้นจนได้รสชาติที่ซับซ้อนและกลมกล่อม ว่ากันว่า ความนุ่มละมุนของอานาโกะราวกับละลายในปาก เหลือไว้เพียงรสชาติหอมหวานอันน่าประทับใจ
2. อาคามิ (Akami): แก่นแท้แห่งรสชาติทูน่า

เมื่อพูดถึง ‘มากุโระ’ หรือ ‘ปลาทูน่า’ หลายคนอาจนึกถึงส่วนท้องที่มีไขมันแทรกอย่าง ‘โอโทโร่’ (Otoro) หรือ ‘ชูโทโร่’ (Chutoro) แต่ ‘อาคามิ’ คือส่วนเนื้อแดงล้วนที่ไม่มีไขมันแทรก หรือมีไขมันน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับส่วนอื่นๆ ของทูน่า บ่งบอกถึงรสชาติและคุณภาพที่แท้จริงของปลาทูน่าได้ดีที่สุด อาคามิที่ดีจะมีสีแดงสด เนื้อใส-แน่น-แต่ไม่กระด้าง มีรสชาติของเลือดปลาเบา ๆ ที่มาพร้อมกับความสด แม้อาคามิจะหาง่ายกว่าส่วนอื่น ๆ แต่การจะได้อาคามิที่มีคุณภาพสูงจากบลูฟินทูน่า (Bluefin Tuna) ชั้นดีต้องอาศัยปลาที่มีขนาดใหญ่และสดใหม่ซึ่งหาได้ยากมาก เชฟโอมากาเสะมักจะนำอาคามิไปบ่ม (Aging) เพื่อดึงรสอูมามิและความนุ่มของเนื้อปลาออกมาให้ได้มากที่สุด นับเป็นหนึ่งคำที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยรสชาติอันล้ำลึกอย่างแท้จริง
3. ทาราบะ (Taraba): ราชันปูแห่งท้องทะเลเหนือ

ทาราบะ (Taraba) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘ปูยักษ์’ (Alaska King Crab) เป็นหนึ่งในวัตถุดิบราคาแพงจากน่านน้ำที่หนาวเย็นของทะเลโอค็อตสค์ (Okhotsk Sea) ทางตอนเหนือของญี่ปุ่นและมหาสมุทรอาร์กติก ทาราบะเป็นปูที่มีขนาดใหญ่ ขาเรียวยาว เนื้อแน่น และไขมันน้อยกว่าปูชนิดอื่น ๆ ทำให้ได้รับการยกย่องจากชาวญี่ปุ่นให้เป็น “ราชาแห่งปู” โดยเฉพาะทาราบะจากทะเลโอค็อตสค์จะมีความแน่นเด้งและรสหวานตามธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมื่อนำมาเสิร์ฟในร้านโอมากาเสะ เชฟสามารถรังสรรค์เนื้อปูทาราบะในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเสิร์ฟแบบซาชิมิเพื่อให้คุณลิ้มรสความหวานฉ่ำของเนื้อปูแบบเต็ม ๆ หรือนำไปย่างบนเตาถ่านเพื่อเพิ่มความหอมกรุ่นอย่าบอกใคร
4. คิงกิ (Kinki): อัญมณีสีแดงแห่งท้องทะเลลึก

ปลาคิงกิ (Kinki) ปลาทะเลน้ำลึกสีแดงสดจากฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น จัดเป็นวัตถุดิบหายากและมีราคาแพง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “อัญมณีแห่งท้องทะเล” สัญลักษณ์แห่งความหรูหราแห่งท้องทะเล เพราะเป็นปลาตามธรรมชาติที่ไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ ปลาคิงกิอาศัยอยู่ในใต้ทะเลลึกกว่า 200 เมตร ด้วยอุณหภูมิของน้ำที่เย็นจัดทำให้ปลาคิงกิมีเนื้อแน่น เนียน รสชาติหวานมัน ชุ่มฉ่ำไปด้วยไขมันคุณภาพดีที่แทรกซึมอยู่ทั่วทั้งเนื้อปลา เมื่อนำไปย่างจะทำให้หนังกรอบและกลิ่นหอมน่ารับประทาน เนื้อปลาสีขาวเนียนนุ่มชุ่มฉ่ำจะละลายในปาก การได้ลิ้มลองปลาคิงกิในคอร์สโอมากาเสะถือเป็นประสบการณ์สุดพิเศษที่ไม่ควรพลาด
5. มากุโระ (Maguro): ที่สุดแห่งราชาปลาซูชิ

หากพูดถึงปลาดิบที่ครองใจนักชิมทั่วโลก ชื่อแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึงย่อมหนีไม่พ้น ‘มากุโระ’ หรือ ‘ปลาทูน่า’ ใช่ไหมครับ โดยเฉพาะ ‘บลูฟินทูน่า’ หรือ ‘ฮอนมากุโระ’ (Hon Maguro) ที่ได้รับการยอมรับในบรรดานักชิมว่ารสชาติดีที่สุด มากุโระเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งความหรูหราและความประณีตในโลกของซูชิ ด้วยรสชาติที่หลากหลายและสัมผัสที่มีเอกลักษณ์ ทำให้มากุโระได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งปลาซูชิ” ความพิเศษของมากุโระอยู่ที่การแบ่งเนื้อปลาออกเป็นส่วนต่าง ๆ ซึ่งแต่ละส่วนก็มอบรสชาติและประสบการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เริ่มจาก อาคามิ (Akami) เนื้อแดงรสชาติเข้มข้น ชูโทโร่ (Chutoro) ส่วนท้องที่มีไขมันปานกลาง ให้ความสมดุลระหว่างรสชาติและความนุ่มมัน ปิดท้ายด้วย โอโทโร่ (Otoro) ส่วนท้องที่มีไขมันมากที่สุด มอบเนื้อสัมผัสหวานนุ่มชุ่มฉ่ำจนแทบละลายในปาก มากุโระจึงเปรียบเสมือนผลงานศิลปะที่สะท้อนให้เห็นถึงการรังสรรค์ของธรรมชาติและฝีมือของเชฟแต่ละคน ถือเป็นไฮไลท์ที่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในวัตถุดิบของเชฟอย่างแท้จริง
6. หมูไอเบริโก (Iberico Pork): รสชาติจากแดนกระทิงดุ

ไม่ใช่แค่วัตถุดิบจากทะเลเท่านั้นที่โดดเด่นในคอร์สโอมากาเสะ ‘หมูไอเบริโก’ หมูสีดำที่ได้รับการเลี้ยงดูในทุ่งหญ้ากว่างใหญ่บริเวณคาบสมุทรไอบีเรีย ประเทศสเปนและโปรตุเกส เป็นอีกหนึ่งในวัตถุดิบพิเศษที่เชฟระดับแนวหน้านิยมนำมารังสรรค์เป็นเมนูเซอร์ไพร์ส เจ้าของฟาร์มจะเลี้ยงหมูไอเบริโกด้วยลูกโอ๊กเป็นอาหารหลัก ทำให้เนื้อมีรสชาติเข้มข้น หอมหวาน ไขมันแทรกนุ่มละลายในปาก มีลวดลายคล้ายลายหินอ่อนของเนื้อวากิว และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะมีไขมันดีคล้ายน้ำมันมะกอก จึงถือเป็นเนื้อหมูคุณภาพพรีเมียมที่แพงและมีรสชาติยอดเยี่ยมที่สุดในโลก นิยมนำเสนอในรูปแบบของการย่างด้วยไฟอ่อน ๆ เพื่อให้ไขมันค่อยๆ ละลายและแทรกซึมเข้าไปในเนื้อจนนุ่มละมุน ทำให้ได้หมูย่างชุ่มฉ่ำและหอมกรุ่นเกินห้ามใจ
7. โฮตาเตะ (Hotate): หอยเชลล์หวานฉ่ำจากฮอกไกโด

ในบรรดาอาหารทะเลของญี่ปุ่น ‘โฮตาเตะ’ หรือ ‘หอยเชลล์ญี่ปุ่น’ จากเกาะฮอกไกโด คือสุดยอดวัตถุดิบที่ครองใจนักชิมทั่วโลก ด้วยสภาพภูมิประเทศและกระแสน้ำที่เย็นจัดเหมาะอย่างยิ่งกับการเจริญเติบโตของหอยเชลล์ อีกทั้งน้ำทะเลยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแพลงก์ตอนและแร่ธาตุต่าง ๆ ทำให้หอยเชลล์เติบโตอย่างช้า ๆ เนื้อจึงแน่นเด้งฟูและรสชาติหวานนุ่มละมุนลิ้นตามธรรมชาติ ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานโฮตาเตะแบบซาชิมิหรือนิกิริ เพื่อคงความสดใหม่และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ไว้ให้มากที่สุด บางครั้งอาจนำมาเบิร์นไฟที่ผิวเพียงเล็กน้อยแบบอะบูริ (Aburi) เพิ่มความหอมและสร้างมิติของรสสัมผัสที่แตกต่าง นับเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่มอบความสดชื่นตราตรึงใจได้อย่างดีเยี่ยม
8. คานิมิโซะ (Kani Miso): มันปูรสเข้มข้นที่คนรักปูต้องลอง

ในโลกของโอมากาเสะที่เน้นความสดใหม่และความพรีเมียมของวัตถุดิบ ‘คานิมิโซะ’ หรือ ‘มันปูญี่ปุ่น’ เป็นวัตถุดิบที่โดดเด่นและสร้างความประทับใจได้อย่างลึกซึ้ง จัดเป็นเมนูไฮไลต์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติที่ซับซ้อนและเข้มข้น ด้วยรสชาติที่มีเสน่ห์ของมันปูและเครื่องในปูที่อยู่ในกระดอง มีลักษณะเป็นเนื้อครีมเข้มสีเทาอมเขียว อัดแน่นไปด้วยรสชาติอูมามิเข้มข้นและกลิ่นหอมของท้องทะเล คานิมิโซะยังแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจของเชฟในการใช้ประโยชน์จากปูทุกส่วนอย่างคุ้มค่า แล้วยังเป็นสัญลักษณ์ของความพรีเมียม เพราะมันปูคุณภาพดีที่ได้รสชาติเข้มข้นและไม่คาวนั้นต้องมาจากปูสดเท่านั้น เชฟมักจะนำคานิมิโซะไปปรุงรสเล็กน้อยแล้วใส่กลับไปในกระดอง ก่อนจะนำไปย่างไฟให้มีกลิ่นหอมฟุ้ง เสิร์ฟร้อน ๆ รับประทานเป็นเครื่องเคียง หรือคลุกเคล้ากับข้าวสวยญี่ปุ่น เป็นรสชาติแห่งความทรงจำที่คนรักปูจะต้องหลงรัก
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับ “8 วัตถุดิบหายากในคอร์สโอมากาเสะ” ที่เรารวบรวมมาฝาก หากคุณได้ลิ้มลองสักครั้ง แล้วจะประทับใจในรสชาติและเนื้อสัมผัสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใครอยากรู้ว่า วัตถุดิบหายากจะอร่อยสมคำร่ำลือแค่ไหน มาสัมผัสประสบการณ์โอมากาเสะในฝันกับ 8 วัตถุดิบหายากตามฤดูกาลได้ที่ร้าน Yuzu Omakase คอร์สโอมากาเสะที่จะเติมเต็มความสุขและความประทับใจให้กับคุณ
📍 Yuzu Omakase Thailand 2F, 258/9-10 Siam Square Soi 3, Pathumwan, Bangkok
📞 Phone: 063-898-8989
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ขออภัย ไม่พบโพสต์ที่ตรงกับเงื่อนไขของคุณ
